แผนงานวันนี้หนักหน่วง
จริง ๆ วางแผนว่าแค่เดินเล่นในมิลาน
แต่คุณพ่อเกิดอยากจะไปดูหอเอนปิซ่า เอาหล่ะสิ
ลองดูแผนที่ ก็แบบ T_T คนละโยชน์เลยอ่า
แต่ลองดู รถไฟมีไปถึง เวลาก็พอได้ เลยจัดให้คุณพ่อเสียหน่อย
การเดินทางเลยดูเหนื่อย ๆ แต่คุณพ่อบอกสู้ตายค่า
อย่างที่บอก ตอนแรกโรงแรมบอกจะเตรียมอาหารเช้าใส่ถุงไว้ให้ แต่พนักงานที่อยู่ตอนเช้าบอกไม่รู้เรื่อง
เลยอดข้าวเช้าอันแสนอร่อยไป เสียดาย T_T
ที่สถานีรถไฟ ก็มีเปิดอยู่ร้านเดียว แล้วคนเยอะมากกกก เลยได้มาแค่นี้
ของเรา 2037 ไป Pisa นี่ก็ซื้อตั๋วไว้ตั้งแต่ที่เมืองไทยแล้ว เลยได้ถูกหน่อย เป็นตั๋วจากมิลานรวดไป Pisa เลย
แต่ขากลับ เรากะแวะ ฟลอเรนซ์ จากปิซ่าไปฟลอเรนซ์ ต้องซื้อตั๋วเอง
แต่จากฟลอเรนซ์กลับมิลาน เราก็ซื้อตั๋วรถไฟจากไทยไว้แล้วเหมือนกัน
ที่นั่ง..เล็กไป T_T
ทางเดิน เป็นที่วางของ
เราต้องมาเปลี่ยนรถไฟที่สถานี..จำไม่ได้
แต่เอาตั๋วให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าบอกให้รอที่นี่นะ แป๊บหนึ่งนะ เดี๋ยวรถไฟมา
เอ้ารอ
รถไฟมาแล้ว เจ้าหน้าที่เดินมาบอก ขบวนนี้แหระ
อุ๊ยยย...
ถึงแล้วค่า
คือแบบ เดินออกมาเหมือนสถานที่รกร้าง 5555+
เดินออกมาพร้อมกลุ่มนักเรียนกลุ่มหนึ่ง
เราเลือกถามร้านขายของหน้าสถานี เอารูปให้ดู เค้าให้มาทางซ้าย แต่กลุ่มนักเรียนเดินไปทางขวา
เดินไปสักพัก จนคิดว่าหลง
แต่สุดท้ายก็เจอจนได้ และก็เห็นกลุ่มนักเรียนนั้นด้วยเหมือนกัน
วิธีการหาห้องน้ำเข้าก็เหมือนเดิม หาร้านอาหาร ที่นี่มีแต่แมค และก็มีแต่คนเข้ามาซื้อของเพื่อเข้าห้องน้ำเหมือนกัน 555+
จากนั้นก็เดินเข้าไปในส่วนของหอเอนกัน
ถ่ายกับประตู
เนื่องจากมีการก่อสร้างอยู่บางส่วน เราเลยเห็นป้ายกันเยอะเลย
ท่าบังคับ
เอาทุกมุม
มีคนขึ้นไปด้านบนด้วย เลยถามป๊าว่า จะขึ้นไหม
ป๊าบอก ขึ้นไป เดี๋ยวก็ต้องลง เหนื่อย ไม่เอา
โอเค...
มีรถให้นั่งด้วย
วิวรอบ ๆ
ที่จริงก็มีอะไรให้เดินดูเยอะนะ แต่พอเดินรอบ ๆ เสร็จ ก็ออกมาซื้อของที่ระลึกนิดหน่อย แล้วก็กลับ
แวะซื้อขนม+น้ำที่ร้านแถว ๆ นั้น
แขวนอยู่ในร้านขนม
กลับมายังสถานีรถไฟเดิม... เป็นการดูชานชลา ที่ งงมาก
คือเดินขึ้นเดินลงหลายรอบมากอ่า
จนแบบคุยกับคนแถว ๆ นั้นที่เป็นฝรั่งว่า สถานีที่เราจะไปหน่ะสายไหนก็ผ่านเกือบหมด รอไหนก็ได้
ดูแค่เป็นขบวนต่อไปก็พอ
โอเค งั้นไปซื้อตั๋วกัน
แล้วแบบ สถานีร้างมากกกกกกกกกกกกก
ทุกคนไม่มีใครซื้อตั๋วที่นี่ได้ เพราะไม่มีเครื่องที่รับเงินสด รับแต่บัตรเครดิต แล้วบัตรเครดิตเราใช้ที่นี่ไม่ได้อ่า
นักท่องเที่ยวทุกคน มึนตึ้บออกมาจากเครื่อง
จนเด็กแถวนั้นบอก ถ้าเธอโดนตรวจตั๋ว ซึ่งไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เธอก็บอกไป ว่าเป็นนักท่องเที่ยว แล้วซื้อตั๋วไม่ได้ แค่นั้น เค้าไม่ว่าเธอหรอก เพราะแค่ไม่กี่สถานีเอง
โอเค ตามนั้น
มีเหตุการณ์ระทึกนิดหน่อย ป๊าโดยขโมยล้วงกระเป๋าหลัง
ซึ่ง โชคดีที่ป๊าเตรียมตัวไว้อย่างดี
เอากระดาษทิชชุ๋มาห่อ ๆ ๆ ไว้ที่เป๋าหลังให้ขโมยคุ้ย
ตอนแรกก็ไม่รู้
พอจะนั่งแล้ว อีกสักพักรถจะออก
มีเด็กอีกกลุ่มหนึ่งวิ่งมาหาจากอีกโบกี้
พูดภาษาใบ้ว่า เห็นผู้หญิงกลุ่มเมื่อกี้ล้วงกระเป๋าป๊า ลองดูมีอะไรหายไหม
โห้ ดีที่ไม่มีไรหาย
คือถ้าเป็นกระเป๋านี่คือ หมดทุกอย่างอ่ะ
ก็คุยแบบใช้ภาษากายเป็นส่วนใหญ่ ขอบคุณพวกเด็ก ๆ มาก
แล้วพวกเด็ก ๆ ก็บอก เค้าก็รู้สึกเสียใจกับพวกของเค้าเหมือนกัน
แม้แต่เป้ไปโรงเรียนของพวกเค้า ก็ต้องล๊อคกุญแจไว้เหมือนกัน T_T
ดีจังที่เราอยู่ประเทศไทย
โอเคนี่คือที่เราจะไป
อย่างที่บอก เราจะไปต่อรถไฟที่ Pisa Centrale
มีหลายสายเลย
มาถึงที่ Pisa centrale วุ่นวายนิดหน่อย เพราะต้องรีบหาซื้อตั๋ว และรีบขึ้นรถไฟ มีเวลา 8 นาที
วิ่งเข้าห้องขายตั๋ว เจอกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยืนเวียนหัวกับการซื้อตั๋ว โดยไม่มีเจ้าหน้าที่
ต่างคนต่างช่วยกัน เราก็อาศัยระหว่างรอแถว ก็ดูเอา
ปรากฎว่า ซื้อทันในอีก 1 นาทีรถจะออก รีบวิ่งไปขึ้นรถ
เพราะถ้ารอขบวนต่อไป อาจทำให้เที่ยวฟลอเรนซ์ได้น้อยลง
คือแบบ ยุ่งระเบิดมาก เลยไม่ได้ถ่ายรูปไรมาเลย
มาถึงสถานีรถไฟที่ฟลอเรนซ์เลยแล้วกัน
อุ๊ย ๆ
มาขบวนนี้นะ
วิถีคนกล้า 5555555555555+
อย่างที่บอก มาเพราะได้มา แต่ไม่รู้ว่าจะไปไหน 5555+
จะทำไงดีหล่ะ ก็ไปดูร้านหนังสือแถวนั้น แล้วก็ถ่ายรูปในโปสการ์ดมา เพราะคิดว่า
รูปในโปสการ์ดต้องเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนต้องไปแน่ ๆ
แล้วก็เอารูปนั้น ถามทางคนไปเรื่อย ๆ
พอออกนอกสถานีรถไฟปุ๊บ ก็ถ่ายวิวรอบ ๆ ก่อนเลย
เราต้องเดินข้ามถนนไปเรื่อย ๆ จนเห็น Tourist information ซึ่งคิดว่า ถ้าได้เข้าไปอาจได้อะไรเยอะ
แต่...
คิดผิดค่ะ
แถวยาวเป็นสิบ ๆ คน
แถม จากการสังเกต แลดูจะเป็นเหมือนพวกหาที่พักมากกว่า
ผ่านดีกว่าเนอะ เดินถามทางไปเรื่อย ๆ ดีกว่า
เอิ่มมมม...
กินขนม ที่คิดว่า จะอร่อยแบบบ้านเรา T_T
มันแข็ง ๆ จืด ๆ เหนียว ๆ
แต่เราก็มาถูกนะคะ 5555+
ทีนี้ หิวไง กินไรก่อนเดินเที่ยวดีกว่าเนอะ เห็นร้านนี้ ใกล้วิหารดี กินไปถ่ายรูปไปดีกว่า
แต่..ร้านนี้บริการไม่ค่อยดีเลย คราวหน้ากระเถิบไปกินร้านข้าง ๆ แลดูบริการดีก่วาเยอะ
วิธีสั่งเหรอ ...
เดินไปโต๊ะข้าง ๆ แล้วถามว่าเธอกินไรอ่า จะได้สั่งถูก แล้วเอาเมนูไปให้จิ้มให้ 555+
อาจดูรบกวนคนอื่น แต่เราเลือกแล้วว่า เป็นแขกใจดี เป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกัน
ไม่ว่าหรอก ยิ้มให้ตลอด น่ารักมาก
ทางลงไปห้องน้ำ ซึ่งแบบ...พนักงานด้านล่างก็น่ากลัวเข้าไปอีก
ห้องน้ำอยู่งงมาก เราหาไม่เจอก็โดนดุ โอ๊ยย อยากตาย
พอสั่งเสร็จ ก็ให้ป๊านั่งรอที่ร้านไปก่อน แล้วเราออกไปสำรวจ หาที่เที่ยวอีกทีที่เป็นประตูสีเหลืองๆ
นอกจากจะถามตำรวจไปเรื่อย ๆ แล้ว ก็ได้ไกด์จีนนี่แหระ ที่บอกทางให้ ขอบคุณค่า
อุ๊ย ๆ
หลังจากเห็นสถานที่แน่ ๆ แล้ว ก็กลับมากินข้าว เก็บเงิน แล้วก็พาป๊าเดินไปแบบไม่ต้องหลงทาง 55+
มีคนมาขอให้เราถ่ายรูปให้ แต่ให้ป๊าดีกว่า เดี๋ยวรูปเค้าไม่สมประกอบ 55+
ต่ำสุดนานเท่าไหร่ลืมไปแล้ว 50 ยูโร ป๊าบอก ไม่เป็นไร แค่ถ่ายข้าง ๆ ก็ได้
นี่ไง ประตูเหลือง ^_^
คนเยอะๆ มาก ๆ
เราก็เดินเล่นอยูแถว ๆ นี้แหระ
จนมาเจออารายเนี่ย
ทุกท่วงท่าอยู่ในความทรงจำ 555+
เดินเล่น นั่งเล่น กินเล่น
สักพักก็เดินกลับ
สวยมากอ่า สวยเหมือนรูปวาด ขนาดถ่ายออกมายังไม่เหมือนสถานที่เลย เหมือนรูปวาด
อีกสักรอบ
มีขายกันเยอะ คนซื้อก็เยอะ
ไม่กล้าจ้องนาน เพราะแค่สบตาเสี้ยววิ พี่ท่านก็ตามตื้อเป็นชาติ
โห้วววว
ราคาซี้ดมากอ่า บ้านเราไม่กี่บาทเอง
พอได้เวลาก็เดินกลับไปสถานีรถไฟ
ตรวจดูทุกอย่างแล้ว ยังพอมีเวลานิดหน่อย ก็ไปหาห้องน้ำกัน
อย่างที่บอก เข้าได้ต้องแมคนะ 555+
พอได้ติมมา ก็ไปเข้าห้องน้ำ
เผลอวางใบเสร็จไว้บนโต๊ะ แป๊บเดียว
มีมือดีเดินมาโฉบใบเสร็จไปเลยค่า
นี่ตกใจ คือ เราไม่สามารถเข้าห้องน้ำได้อีกแล้วไง
จะไปตาม ป๊าบอก ทำทานไปเถอะ คงอั้นไม่ไหว แล้วไม่มีเงิน ให้เค้าไปเหอะนะ
โอเค เห็นแก่ป๊า
ปะ ได้เวลากลับมิลาน
จำวันที่ไปเอ็กโปแล้วคนเยอะ ๆ ได้ไหม คงเป็นพวกที่มากับขบวนรถไฟแบบนี้อ่ะ
ขึ้นมาแล้วดูนิดหนึ่ง ว่าไปมิลานบ้านเราจริงไหม
ป้ายขึ้นเป็นระยะ ๆ
นี่ก็ได้คิดเพราะความตาโตของเรา
สงสัยว่ารถเข็นไวแสงนั้น พูดอะไร
2 พ่อลูกที่นั่งอีกฝั่งหนึ่งเลยอธิบายให้ แล้ว...
เราก็วิ่งด้วยความไวแสงตามรถเข็นนั้นไปแล้วก็ชู 2 นิ้ว 5555+
หลังกลับถึงโรงแรมก็บอกฟร้อนท์ ให้เตรียมอาหารเช้าให้หน่อย เพราะออกตี 5
คราวนี้เจอหัวหน้า ต้องรอลุ้นว่าจะได้ข้าวเช้าไหม
จากนั้นก็เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อยก่อนนอน
เพราะพรุ่งนี้จะขึ้นเครื่องไปเยอรมันกัน
นี่อยู่ตรงฟร้อนโรงแรม พึ่งเห็น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น