วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559

Europe Trip Day 17 : Milan->Pisa->Florence->Milan

แผนงานวันนี้หนักหน่วง
จริง ๆ วางแผนว่าแค่เดินเล่นในมิลาน
แต่คุณพ่อเกิดอยากจะไปดูหอเอนปิซ่า เอาหล่ะสิ
ลองดูแผนที่ ก็แบบ T_T คนละโยชน์เลยอ่า
แต่ลองดู รถไฟมีไปถึง เวลาก็พอได้ เลยจัดให้คุณพ่อเสียหน่อย
การเดินทางเลยดูเหนื่อย ๆ  แต่คุณพ่อบอกสู้ตายค่า

อย่างที่บอก ตอนแรกโรงแรมบอกจะเตรียมอาหารเช้าใส่ถุงไว้ให้ แต่พนักงานที่อยู่ตอนเช้าบอกไม่รู้เรื่อง
เลยอดข้าวเช้าอันแสนอร่อยไป เสียดาย T_T

ที่สถานีรถไฟ ก็มีเปิดอยู่ร้านเดียว แล้วคนเยอะมากกกก เลยได้มาแค่นี้





ของเรา 2037 ไป Pisa นี่ก็ซื้อตั๋วไว้ตั้งแต่ที่เมืองไทยแล้ว เลยได้ถูกหน่อย เป็นตั๋วจากมิลานรวดไป Pisa เลย
แต่ขากลับ เรากะแวะ ฟลอเรนซ์ จากปิซ่าไปฟลอเรนซ์ ต้องซื้อตั๋วเอง
แต่จากฟลอเรนซ์กลับมิลาน เราก็ซื้อตั๋วรถไฟจากไทยไว้แล้วเหมือนกัน



ที่นั่ง..เล็กไป T_T


ทางเดิน เป็นที่วางของ



เราต้องมาเปลี่ยนรถไฟที่สถานี..จำไม่ได้ 
แต่เอาตั๋วให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าบอกให้รอที่นี่นะ แป๊บหนึ่งนะ เดี๋ยวรถไฟมา
เอ้ารอ



รถไฟมาแล้ว เจ้าหน้าที่เดินมาบอก ขบวนนี้แหระ



อุ๊ยยย...

ถึงแล้วค่า
คือแบบ เดินออกมาเหมือนสถานที่รกร้าง 5555+
เดินออกมาพร้อมกลุ่มนักเรียนกลุ่มหนึ่ง
เราเลือกถามร้านขายของหน้าสถานี เอารูปให้ดู เค้าให้มาทางซ้าย แต่กลุ่มนักเรียนเดินไปทางขวา
เดินไปสักพัก จนคิดว่าหลง
แต่สุดท้ายก็เจอจนได้ และก็เห็นกลุ่มนักเรียนนั้นด้วยเหมือนกัน




วิธีการหาห้องน้ำเข้าก็เหมือนเดิม หาร้านอาหาร ที่นี่มีแต่แมค และก็มีแต่คนเข้ามาซื้อของเพื่อเข้าห้องน้ำเหมือนกัน 555+



จากนั้นก็เดินเข้าไปในส่วนของหอเอนกัน
ถ่ายกับประตู









เนื่องจากมีการก่อสร้างอยู่บางส่วน เราเลยเห็นป้ายกันเยอะเลย












ท่าบังคับ



เอาทุกมุม
 




มีคนขึ้นไปด้านบนด้วย เลยถามป๊าว่า จะขึ้นไหม
ป๊าบอก ขึ้นไป เดี๋ยวก็ต้องลง เหนื่อย ไม่เอา 
โอเค...


มีรถให้นั่งด้วย


วิวรอบ ๆ 







ที่จริงก็มีอะไรให้เดินดูเยอะนะ แต่พอเดินรอบ ๆ เสร็จ ก็ออกมาซื้อของที่ระลึกนิดหน่อย แล้วก็กลับ


แวะซื้อขนม+น้ำที่ร้านแถว ๆ นั้น



แขวนอยู่ในร้านขนม


กลับมายังสถานีรถไฟเดิม... เป็นการดูชานชลา ที่ งงมาก
คือเดินขึ้นเดินลงหลายรอบมากอ่า
จนแบบคุยกับคนแถว ๆ นั้นที่เป็นฝรั่งว่า สถานีที่เราจะไปหน่ะสายไหนก็ผ่านเกือบหมด รอไหนก็ได้
ดูแค่เป็นขบวนต่อไปก็พอ


โอเค งั้นไปซื้อตั๋วกัน
แล้วแบบ สถานีร้างมากกกกกกกกกกกกก
ทุกคนไม่มีใครซื้อตั๋วที่นี่ได้ เพราะไม่มีเครื่องที่รับเงินสด รับแต่บัตรเครดิต แล้วบัตรเครดิตเราใช้ที่นี่ไม่ได้อ่า
นักท่องเที่ยวทุกคน มึนตึ้บออกมาจากเครื่อง
จนเด็กแถวนั้นบอก ถ้าเธอโดนตรวจตั๋ว ซึ่งไม่ค่อยมีเท่าไหร่ เธอก็บอกไป ว่าเป็นนักท่องเที่ยว แล้วซื้อตั๋วไม่ได้ แค่นั้น เค้าไม่ว่าเธอหรอก เพราะแค่ไม่กี่สถานีเอง
โอเค ตามนั้น


มีเหตุการณ์ระทึกนิดหน่อย ป๊าโดยขโมยล้วงกระเป๋าหลัง
ซึ่ง โชคดีที่ป๊าเตรียมตัวไว้อย่างดี
เอากระดาษทิชชุ๋มาห่อ ๆ ๆ ไว้ที่เป๋าหลังให้ขโมยคุ้ย
ตอนแรกก็ไม่รู้
พอจะนั่งแล้ว อีกสักพักรถจะออก
มีเด็กอีกกลุ่มหนึ่งวิ่งมาหาจากอีกโบกี้ 
พูดภาษาใบ้ว่า เห็นผู้หญิงกลุ่มเมื่อกี้ล้วงกระเป๋าป๊า ลองดูมีอะไรหายไหม
โห้ ดีที่ไม่มีไรหาย
คือถ้าเป็นกระเป๋านี่คือ หมดทุกอย่างอ่ะ
ก็คุยแบบใช้ภาษากายเป็นส่วนใหญ่ ขอบคุณพวกเด็ก ๆ มาก
แล้วพวกเด็ก ๆ ก็บอก เค้าก็รู้สึกเสียใจกับพวกของเค้าเหมือนกัน
แม้แต่เป้ไปโรงเรียนของพวกเค้า ก็ต้องล๊อคกุญแจไว้เหมือนกัน T_T
ดีจังที่เราอยู่ประเทศไทย




โอเคนี่คือที่เราจะไป



อย่างที่บอก เราจะไปต่อรถไฟที่ Pisa Centrale 
มีหลายสายเลย



มาถึงที่ Pisa centrale วุ่นวายนิดหน่อย เพราะต้องรีบหาซื้อตั๋ว และรีบขึ้นรถไฟ มีเวลา 8 นาที
วิ่งเข้าห้องขายตั๋ว เจอกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ยืนเวียนหัวกับการซื้อตั๋ว โดยไม่มีเจ้าหน้าที่
ต่างคนต่างช่วยกัน เราก็อาศัยระหว่างรอแถว ก็ดูเอา
ปรากฎว่า ซื้อทันในอีก 1 นาทีรถจะออก รีบวิ่งไปขึ้นรถ
เพราะถ้ารอขบวนต่อไป อาจทำให้เที่ยวฟลอเรนซ์ได้น้อยลง
คือแบบ ยุ่งระเบิดมาก เลยไม่ได้ถ่ายรูปไรมาเลย


มาถึงสถานีรถไฟที่ฟลอเรนซ์เลยแล้วกัน



อุ๊ย ๆ 


มาขบวนนี้นะ


วิถีคนกล้า 5555555555555+



อย่างที่บอก มาเพราะได้มา แต่ไม่รู้ว่าจะไปไหน 5555+
จะทำไงดีหล่ะ ก็ไปดูร้านหนังสือแถวนั้น แล้วก็ถ่ายรูปในโปสการ์ดมา เพราะคิดว่า
รูปในโปสการ์ดต้องเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทุกคนต้องไปแน่ ๆ 
แล้วก็เอารูปนั้น ถามทางคนไปเรื่อย ๆ 





พอออกนอกสถานีรถไฟปุ๊บ ก็ถ่ายวิวรอบ ๆ ก่อนเลย







เราต้องเดินข้ามถนนไปเรื่อย ๆ จนเห็น Tourist information ซึ่งคิดว่า ถ้าได้เข้าไปอาจได้อะไรเยอะ
แต่...
คิดผิดค่ะ
แถวยาวเป็นสิบ ๆ คน 
แถม จากการสังเกต แลดูจะเป็นเหมือนพวกหาที่พักมากกว่า
ผ่านดีกว่าเนอะ เดินถามทางไปเรื่อย ๆ ดีกว่า
เอิ่มมมม...


กินขนม ที่คิดว่า จะอร่อยแบบบ้านเรา T_T
มันแข็ง ๆ  จืด ๆ เหนียว ๆ 



แต่เราก็มาถูกนะคะ 5555+


ทีนี้ หิวไง กินไรก่อนเดินเที่ยวดีกว่าเนอะ เห็นร้านนี้ ใกล้วิหารดี กินไปถ่ายรูปไปดีกว่า
แต่..ร้านนี้บริการไม่ค่อยดีเลย คราวหน้ากระเถิบไปกินร้านข้าง ๆ แลดูบริการดีก่วาเยอะ

วิธีสั่งเหรอ ...
เดินไปโต๊ะข้าง ๆ แล้วถามว่าเธอกินไรอ่า จะได้สั่งถูก แล้วเอาเมนูไปให้จิ้มให้ 555+
อาจดูรบกวนคนอื่น แต่เราเลือกแล้วว่า เป็นแขกใจดี เป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกัน
ไม่ว่าหรอก ยิ้มให้ตลอด น่ารักมาก




ทางลงไปห้องน้ำ ซึ่งแบบ...พนักงานด้านล่างก็น่ากลัวเข้าไปอีก
ห้องน้ำอยู่งงมาก เราหาไม่เจอก็โดนดุ โอ๊ยย อยากตาย


พอสั่งเสร็จ ก็ให้ป๊านั่งรอที่ร้านไปก่อน แล้วเราออกไปสำรวจ หาที่เที่ยวอีกทีที่เป็นประตูสีเหลืองๆ 
นอกจากจะถามตำรวจไปเรื่อย ๆ แล้ว ก็ได้ไกด์จีนนี่แหระ ที่บอกทางให้ ขอบคุณค่า













อุ๊ย ๆ 



หลังจากเห็นสถานที่แน่ ๆ แล้ว ก็กลับมากินข้าว เก็บเงิน แล้วก็พาป๊าเดินไปแบบไม่ต้องหลงทาง 55+







มีคนมาขอให้เราถ่ายรูปให้ แต่ให้ป๊าดีกว่า เดี๋ยวรูปเค้าไม่สมประกอบ 55+




ต่ำสุดนานเท่าไหร่ลืมไปแล้ว 50 ยูโร ป๊าบอก ไม่เป็นไร แค่ถ่ายข้าง ๆ ก็ได้





นี่ไง ประตูเหลือง ^_^





คนเยอะๆ มาก ๆ 
เราก็เดินเล่นอยูแถว ๆ นี้แหระ








จนมาเจออารายเนี่ย



















ทุกท่วงท่าอยู่ในความทรงจำ 555+


เดินเล่น นั่งเล่น กินเล่น
















สักพักก็เดินกลับ


สวยมากอ่า สวยเหมือนรูปวาด ขนาดถ่ายออกมายังไม่เหมือนสถานที่เลย เหมือนรูปวาด






















อีกสักรอบ




มีขายกันเยอะ คนซื้อก็เยอะ
ไม่กล้าจ้องนาน เพราะแค่สบตาเสี้ยววิ พี่ท่านก็ตามตื้อเป็นชาติ


โห้วววว


ราคาซี้ดมากอ่า บ้านเราไม่กี่บาทเอง 


พอได้เวลาก็เดินกลับไปสถานีรถไฟ
ตรวจดูทุกอย่างแล้ว ยังพอมีเวลานิดหน่อย ก็ไปหาห้องน้ำกัน
อย่างที่บอก เข้าได้ต้องแมคนะ 555+



พอได้ติมมา ก็ไปเข้าห้องน้ำ 
เผลอวางใบเสร็จไว้บนโต๊ะ แป๊บเดียว
มีมือดีเดินมาโฉบใบเสร็จไปเลยค่า
นี่ตกใจ คือ เราไม่สามารถเข้าห้องน้ำได้อีกแล้วไง
จะไปตาม ป๊าบอก ทำทานไปเถอะ คงอั้นไม่ไหว แล้วไม่มีเงิน ให้เค้าไปเหอะนะ
โอเค เห็นแก่ป๊า




ปะ ได้เวลากลับมิลาน


จำวันที่ไปเอ็กโปแล้วคนเยอะ ๆ ได้ไหม คงเป็นพวกที่มากับขบวนรถไฟแบบนี้อ่ะ




 ขึ้นมาแล้วดูนิดหนึ่ง ว่าไปมิลานบ้านเราจริงไหม


ป้ายขึ้นเป็นระยะ ๆ



นี่ก็ได้คิดเพราะความตาโตของเรา
สงสัยว่ารถเข็นไวแสงนั้น พูดอะไร 
2 พ่อลูกที่นั่งอีกฝั่งหนึ่งเลยอธิบายให้ แล้ว...
เราก็วิ่งด้วยความไวแสงตามรถเข็นนั้นไปแล้วก็ชู 2 นิ้ว 5555+



หลังกลับถึงโรงแรมก็บอกฟร้อนท์ ให้เตรียมอาหารเช้าให้หน่อย เพราะออกตี 5
คราวนี้เจอหัวหน้า ต้องรอลุ้นว่าจะได้ข้าวเช้าไหม
จากนั้นก็เก็บกระเป๋าให้เรียบร้อยก่อนนอน
เพราะพรุ่งนี้จะขึ้นเครื่องไปเยอรมันกัน

นี่อยู่ตรงฟร้อนโรงแรม พึ่งเห็น




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น