วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2559

Europe Trip Day 3 : Heidelberg ->Stuttgart-> Frankfurt

Europe Trip Day 3 : Heidelberg ->Stuttgart-> Frankfurt


วันนี้แลดูจะโหดสำหรับป๊า แต่ป๊าบอกเอางี้ได้เลยลูก
อยากเที่ยวหลายที่ในเวลาจำกัด พ่อขอมา ลูกจัดไปค่า

คร่าว ๆ เลยคือออกจาก Heidelberg แล้วไป Stuttgart ฝากกระเป๋าไว้ที่ตู้ แล้วไปตัวเปล่า เพื่อดูพิพิธภัณฑ์รถเบนซ์ https://www.mercedes-benz.com/en/mercedes-benz/classic/museum/
กับ พิพธภัณฑ์รถเปอร์เช่ http://www.porsche.com/museum/en/
ก่อนที่จะกลับไปเอากระเป๋าที่ตู้ฝาก แล้วก็นั่งรถไฟไปแฟรงเฟิร์ต แล้วก็นอนที่แฟรงเฟริ์ต

ออกเดินทางได้ ^_^


---


หลังจากตื่นนอน ออกไปเดินเล่น หาข้าวเช้ากิน ก็กลับมาเก็บกระเป๋า เช็คเอ้าท์ แล้วลากกระเป๋ามาที่สถานีรถไฟที่เดิม ที่เรามาถึงเมื่อวาน

รถไฟยังไม่มาก็ถ่ายรูปไปก่อน


ว่าจะหาที่คืนขวด ขี้เกียจ เอาเก็บไว้เติมน้ำกินก็ได้



อยากถ่ายกับรถไฟค่า


จะขึ้นแล้วน้า


ถ่ายกะป้าย เดี๋ยวคนไม่เชื่อ 55+


อย่างที่บอก ชานชลา 7 ก็มีแบ่งเป็น 7a กับ 7b ที่จริงมันก็ชานชลาเดียวกัน แต่เหมือนกับแบ่งหน้าหลัง แล้วมีบันไดเลื่อนขั้นตรงกลางแค่นั้น



ฝรั่งเดินมา


โฮ้ยย แต่แพ้ทางเอเซีย 55+


ถ้าดูที่ป้ายรถไฟ จะเห็นว่าเที่ยวต่อไปก็คือของเรา EC113 9.14 มีผ่าน Stuttgart แล้วไปจบที่ Munchen หรือ Munich
9.14 ชานชลา 7  EC113 จาก Heidelberg HBF ไป Stuttgart Hbf ซื้อล่วงหน้าไว้แล้วเช่นเคย


รูปขบวนรถไฟบอกว่า ถ้าเธอมีตั๋วชั้น 1 ก็ขึ้นตู้  B แต่ถ้าตั๋วชั้น 2 แบบเราก็ต้องไปขึ้นตู้ A กับ E
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าขบวนรถไฟยาวแค่ไหน เป็นเหตุให้เราต้องเดินมาที่ตรงกลาง ๆ ดีกว่า วิ่งง่ายหน่อย ซ้ายขวา 


ได้ที่นั่งแล้ว ที่นี่นะ วางเป๋าแบบนี้กันหมดเลย ไม่ค่อยจะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เหนื่อยกับการหาที่นั่งเพราะของคนอื่น ที่วางกระเป๋าก็มีนะ แต่ก็เห็นวางกันแบบนี้หมด ยังไงก็จองที่นั่งมาดีกว่า จะได้ไม่เหนื่อยเดินหาที่นั่ง+ที่วางกระเป๋า

.

ชมวิวไป


มีปลั๊กด้วยค่า


ทางเล็กมาก ถ้าเป๋าใหญ่นี่ลำบากสุด ชานชลาก็ห่างกับรถไฟ ยกกระเป๋าทีกล้ามขึ้น


ขึ้นมาแล้วจะมีป้ายติดไว้อีกทีว่าคันนี้ไปที่ไหน


ถึงสักที สถานีรถไฟ Stuttgart ถ่ายกับพาหนะที่พาเรามาถึงเสียหน่อย


ทางเดินเข้าตัวตึก ยาว ๆ กันไป เป๋าใหญ่ก็ลากกันไป นี่คนเดียวลาก 2 ใบนะคะขอบอก แขนล่ำมาก


ก็มีการแสดงนิทรรศการมั้ง เกี่ยวกับสถานีรถไฟ เห็นของไทยด้วย



ที่หัวหิน




มีการสร้างอะไรไม่รู้ด้านนอก


กว่าจะถึงห้องโถงใหญ่ มองหาตู้เก็บเป๋าก่อน


เดินตามรูปกระเป๋า+กุญแจไป


เจอแล้ว


ขอบอกก่อนว่าทำอะไรไม่เป็นเลย 555+
ขนาดหาข้อมูลแน่น ๆ ไปเยอะมากก็ยังไม่กล้า กลัวเปิดไม่ออก


โชคดีที่ก่อนเรามีเยอรมัน 2 คนกำลังฝากกระเป๋าอยู่ เลยไปยืนดู
ตอนแรกพวกนางก็กลัวว่าเราเป็นมิจฉาชีพหรือเปล่า เราก็เลยบอกไปว่า ขอดูหน่อย ทำไม่เป็น พึ่งเคยใช้
นางก็น่ารักอธิบายให้ฟัง ให้เราไปแลกเงินที่ร้านอาหาร ซึ่งที่จริงก็ต้องซื้ออ่ะนะ
แล้วค่อยมาหยอดตู้


เลือกตู้ที่ขนาดพอกับกระเป๋าเรา แยกของที่ต้องใช้กับของฝากออก



อะไรไม่ใช้ก็ยัดเข้าไป ปิดประตู แล้วก็หยอดเหรียญ แล้วก็เอากุญแจออก เก็บกุญแจไว้ดี ๆ นะ 

นี่เตรียมสร้อยห้อยคอไปแล้ว
ฝากเป๋าเสร็จ เรียบร้อย ออกเดินทางได้


ป๊าปวดห้องน้ำ ที่นี่เสียเงินนะคะ ไม่หยอดเหรียญประตูไม่เปิด 55+



ไม่มีเหรียญ เชิญแลกค่ะ





ใบเสร็จห้องน้ำ นำไปเป็นส่วนลดในการซื้อของตามร้านต่อไปนี้ค่า





ก่อนอื่นไปหาซื้อตั๋วแบบ 1 วันก่อนค่ะ ที่สำนักงาน DB ส่วนใหญ่จะใช้แบบนี้เพราะไม่อยากต้องไปกดเองบ่อย ๆ มันงง 55+
ที่ซื้อเป็น Gruppentageskarte (group ticket) - 1-day ticket: €11.50 ค่ะ ใบเดียวใช้ได้เป็นกลุ่ม


แผนการเดินทาง 
จบกลถานีหลัก นั่งไปเปอร์เช่ที่วงด้านซ้ายก่อน
แล้วค่อยกลับมาสถานีหลัก ก่อนนั่งไปเบนซ์ที่วงขาวขวามือ 

ออกมานอกสถานีแล้วค่า


เดินตามป้ายไปเลย


ที่แรกที่เราจะไปคือ Porsche Museum ค่ะ 
อ่านเจอว่า เราควรไปที่นี่ก่อน เพราะถ้าไป benz ก่อน อาจเฟลที่ porsche ได้ค่ะ 
เพราะว่าที่ benz จะใหญ่กว่า porshe มากกกก 555+
ว่าไงว่าตามกันค่า


เราจะนั่งรถไฟแบบ S-Bbhn สาย 6 ฝั่งที่จะไป Weil der stadt ซึ่งจะออกจากชานชลา 102


ที่จริงตอนแรกก็งง หาช่องเข้าไม่ถูก เพราะมีหลายรูมาก ไม่รู้จะซ้ายจะขวา
แต่ในสถานีจะมีคนสูงวัยหลายคนจับกลุ่มคุยกันอยู่ เหมือนจะเป็นอาสาสมัครมาอำนวยความสะดวกให้
เค้าเห็นคนสวยยืนงงอยู่กลางห้อง เลยหันมาสบตา พอเราหันมาเจอตาเค้าก็เลยวิ่งไปถาม
ใจดีมากเลย เอาแผนที่ที่ตัวเค้าออกมากางให้ วงสถานี บอกชานชลา แล้วดูด้วยว่าเราไปถูกหรือเปล่า
น่ารักอ่า

ก่อนใช้ตั๋ว ให้มองหาเครื่องนี้ไว้นะคะ
เป็นเครื่องที่เอาไว้เปิดการใช้บัตรเป็นครั้งแรก ใส่เข้าไปในรูเลยมันพิมพ์เวลา และชื่อสถานีลงบนตั๋วรถไฟ


ไม่ควรลักไก่นะคะเพราะมีเจ้าหน้าที่เดินตรวจ ถ้าเค้าดูตั๋วแล้วเราไม่ได้เปิดใช้ ปรับหลายยูโรเลยค่าไม่คุ้มกัน


ชุดเท่ห์เนอะ
 มีพ่อถือไม้เท้า จะรออะไร มองหาเก้าอี้โลด5555+ ที่นี่เค้าไม่ค่อยนั่งทับที่คนแก่เท่าไหร่
ว่างตลอด สบายคุณพ่อ



ที่นี่เอารถจักรยานขึ้นได้ด้วย แต่จะมีระบุว่าสามารถขึ้นที่ตู้ไหนได้บ้าง


มาถึงแล้วสถานี Neuwirtsh (Porschep)
ตามธรรมเนียม พ่อชอบถ่ายกับรถไฟ 55+


มาถึงป่านนี้ จะได้เที่ยวกี่ที่เนี่ย 55+


อ่ะอีกสักรุปกับป้าย


ส่วนใหญ่ในแต่ละสถานีจะมีลิฟต์ให้ผู้พิการ ซึ่ง...งงมากค่ะ
แล้วชั้น 1 อยู่ไหน 555+
แล้วเป็นอย่างนี้ทั้งเมืองอ่า กดผิดกดถูกอยู่นาน ไม่ใช่แค่เรานะ นักท่องเที่ยวคนอื่นก็เป็น 5555+
ขึ้นลง ๆ ๆ กันไม่ต้องออกสถานีรถไฟกันแล้ว 55+



จริง ๆ คืออยู่ติดกันเลย ลงลิฟต์มา เดินมาทางออก เลี้ยวขวาถึงแล้ว
นี่ยืนถ่ายจากชานชลา


เหมือนลูกชิ้นปิ้ง แต่บนนั้นคือรถนะ เท่ห์มาก





สวยอ่า

กว่าจะเดินชมรถที่เอามาแสดงไว้นอกอาคารเสร็จก็หลายนาทีอยู่
ไม่รอป๊าแล้ว เข้ามาก่อนโอ้โห้ ดูแถวซื้อตั๋วสิ ที่จริงมีซื้อออนไลน์มาด้วยนะ แต่เพราะตารางเรายังไม่แน่ เลยไม่กล้าซื้อมา



มีโรงเรียนมาเด็กมาทัศนศึกษาด้วย
ที่นี่มีสมุดให้เด็กด้วย เป็นสมุดเกี่ยวกับพิพิธ๓ัณฑ์นั่นแหละ มีเกม ระบายสี ตอบคำถาม ซื้อมาให้หลานด้วย 1 เล่ม


ใกล้ถึงคิวแล้ว คุณพ่อพึ่งเข้ามา


ได้ตั๋วแล้วค่า
ได้เครื่องแปลภาษามาด้วย ป๊าบอกเอามาทำไมฟังภาษาอังกฤษไม่ออก 555+
ก็ต้องเอามาอ่ะนะ เดี๋ยวตอนคืนอธิบายกันยาวอีกว่าทำไม 2 คนแล้วคืนอันเดียว
เดี๋ยวเราจะขึ้นบันไดเลือนด้านหลังขึ้นไปชม มีคนตรวจตั๋วอยู่ตรงบันไดแล้วค่า
ตั๋วคนละ 8 ยูโร ป๊า 60+ แล้วเหลือ 4 ยูโรค่า



ขึ้นบันได้แล้วน้า



ว้าววววว ขึ้นมาก็เห็นแบบนี้เลย




เอ๊ะ คุ้น ๆ 


ชมรถและนายแบบกันไปยาว ๆ 55+














น้องเสื้อแดงกำลังทำกิจกรรมตามสมุดภาพอยู่












ป๊าบอกราวบันไดเก๋มาก



มีให้ลองขับด้วยน้า แต่ว่า
คิวไม่ว่างสักที เด็กน้อยรอต่อเยอะมาก











ได้เวลากลับแล้วจ้า
แต่...
มาหาอะไรกินก่อนกลับดีกว่า
มีร้านเล็ก ๆ อยู่ติดกับเคาน์เตอร์ขายตั๋วด้านล่างเลย




 หรือถ้าอยากแวะดูของก่อนกลับก็เชิญที่ร้านขายของที่ระลึกค่ะ



อันนี้ที่เราจะไป


นั่งรถรถไฟสักพัก



จากที่นี่ เราจะไปพิพิธภัณฑ์รถเบนซ์กันวิธีไปก็คือ
ข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง นั่งรถมุ่งหน้ากลับไป Stuttgart Hbf (tief)
จากนั้น นั้น S-Bahn (urban railway) line S1 มุ่งหน้าไป Kirchheim (Teck) 
เพื่อไปลงสถานี  ‘Neckarpark (Mercedes-Benz)’ 


อย่างที่บอก มีลิฟต์เกือบทุกที่ สบายใจได้


ถึงแล้ว...


เดินตามป้ายโลด
Mercedes-Benz Arena




                จากสถานีจะมีป้ายบอกทางให้เดินไปพิพิธภัณฑ์รถเบนซ์เป็นระยะ ก็ไม่ใกล้สำหรับป๊า 
แต่เราก็เดินเหนื่อย 555+
แต่ก็ไม่หลงนะ เพราะมีป้ายกำกับบอกทางอยู่ทุกแยก
นี่ป้ายหน้าสถานี


นี่ป้ายตามทาง




และแล้ว เราก็มาถึงสักทีพิพิธภัณฑ์รถเบนซ์อยู่ด้านหลังคุณพ่อแล้วค่า หอบแป๊บ..แฮ่ก ๆ



ถ่ายรูปก่อนเข้าตึก


ทางเดินขึ้นตึก


ป๊ายืนบังรถหมดเลย 555


ที่ขายตั๋ว


ได้ตั๋วแล้วค่า เหมือนเคย เรา 8 แต่ป๊า 4 ยูโร
หลังได้ตั๋วแล้ว ให้เดินไปด้านหลังเคาน์เตอร์ ขวามือข้างหลังเห็นผู้ชายตรงนั้นไหมคะ
นั่นแหละค่ะ เดินตรงเข้าไปเลย จะเห็นห้องเก็บของอยู่ซ้ายมือ
ถ้าของเราใหญ่เกินล๊อคเกอร์ เค้าจะมีบริการฝากกับพนักงาน
แต่ของเราเอาเข้าล๊อคเกอร์หมดค่ะ เหลือแค่กระเป๋าใบเล็กใส่กล้อง พาสปอร์ต เป๋าเงิน
เป้ก็ห้ามเอาเข้านะคะ
คิดว่าน่าจะเป็นเพราะต้องเดินนาน อาจเมื่อยแล้วก็ไม่อยากให้กระเป๋าเราไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนหน่ะค่ะ


ล๊อคเกอร์นี่ไม่เสียเงินค่ะ ตอนแรกหยอดไป 1-2 ยูโรตามขนาดแต่ก็จะคืนมาตอนเราไปไขค่ะ ไม่ต้องห่วง

จากนั้นก็เดินตัวปลิวไปตามจุดที่มีพนักงานรออยู่ เพื่อพาขึ้นลิฟต์ไปชั้นบนสุดของตัวตึกค่ะ



เปิดลิฟต์มาก็เจอม้ายืนต้อนรับอยู่ค่ะ
เค้าบอกว่า นี่เป็นพาหนะธรรมชาติอย่างแรกที่ทำให้เราขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ค่ะ


ดูรูปกันยาว ๆ เลยค่า






เรือก็มีน้า
 
ยังไม่จบชั้นแรกเลย แฮ่ก ๆ 
คือความสุขของพ่อ แต่เรา ...5555+


เริ่มเดินวนลงแล้ว




ชอบมากค่าคุณพ่อ เก็บทุกคัน ^_^ 
ความสุขของลูกก็อยู่ที่รอยยิ้มพ่อนี่แหละเนอะ
แวะเข้าห้องน้ำแป๊บ..ใหญ่ไปไหนเนี่ย ใหญ่กว่าห้องนอนโรงแรมเมื่อคืนอีก 55+




เดินม้วน ๆ ๆ ลงต่อไปเรื่อย ๆ 


อันนี้เอาหน้าเราเข้าจอ แล้วนี่แคปมา









ช่วงที่วนระหว่างชั้น อย่าลืมไปดูอีกส่วนหนึ่งด้วยน้า มันใหญ่จริง ๆ ที่นี่






ข้าง ๆ มีสนามฟุตบอลด้วย
ไม่ได้ถ่ายไม่ชัดนะ มันเป็นฟิล์มติดกระจก


เริ่มวนไปชั้นต่าง ๆ 
ชอบตรงที่ส่วนแสดงรถแข่ง ก็จัดทำเป็นที่นั่งกันเลยทีเดียว





ดูรูปไปยาว ๆ 

















หลัง ๆ เป็นรถปัจจุบันที่พ่อไม่ค่อยสนใจ เลยไม่ได้แวะดูอะไรมาก
แต่โดยความยิ่งใหญ่ของที่นี่ทำให้เราเดินหลงไปในส่วนขายรถ และก็คิดว่ายิ่งเดินขึ้นไปสูง ๆ น่าจะมีลิฟต์ลงสักแห่ง

คิดผิดค่ะ T_T นี่2คนพ่อลูกเดินหลงไปชั้น 6 แถมยังต้องให้พนักงานเดินกลับมาส่งที่เดิมอีก น่าอ๊ายยยน่าอาย


เอาตั๋วมาให้ดู


สายห้อยเครื่องแปล ให้เป็นที่ระลึกค่ะ
ตอนที่คืน เจ้าหน้าที่พูดเป็นภาษาจีนใส่ด้วยค่ะ
นี่ฟังออก แต่ก็พูดกลับเป็นภาษาอังกฤษไปว่าไมใช่คนจีน เค้าก็ไม่เชื่อ 55+ 
แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นคนไทยนะคะ
เพราะช่วงที่ไปเกิดกรณีที่สถานทูตไทยในเยอรมันถูกทำลาย 
คนไทยในเยอรมันเลยบอกว่า ห้ามบอกว่าเป็นคนไทยเพราะอาจถูกทำร้ายได้



กลับกันดีกว่าเนอะ เดี๋ยวไม่ทันรถไฟขากลับ

พ่อชอบถ่ายกับเสาตลอด 55+



อุ๊ย ๆ อะไรอ่ะ แวะหน่อย
แต่ไม่ได้ดูฟุตบอลเลยนะ ไม่รู้เรื่องเลย แค่อยากดู









ปะ กลับกันจริงๆ  แล้ว
เดินย้อนขึ้นไปทางเดิมที่มากลับสถานีรถไฟค่า เอ้า ฮึ้บ ๆ 
ถึงแล้ว รอรถไฟแป๊บ

สำหรับการเดินทางที่นี่ไม่ได้มีไวไฟติดตัวไปด้วยนะคะ 
เพราะคิดว่าคงไม่จำเป็นเท่าไหร่ ที่สำคัญ ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่างหาก 55+
พอถึงสถานีรถไฟ เลยต้องไปดูที่บอร์ดตารางรถไฟค่า ว่าต้องรอฝั่งไหน ยังไง
เพราะบางทีก็ไม่ได้มีป้ายไฟบอกไว้
ง่าย ๆ คือ ถามคนแถวนั้นเลย 55+
ได้คุยกับต่างชาติอีกน้า ถ้าหาหล่อ ๆ ได้นี่กำไรชีวิต 55+


เอาน้ำที่ซื้อในพิพิธภัณธฑ์มากิน ไม่อร่อยเลย ให้ป๊าหมด 55+


มาถึงแล้วค่า สถานีที่รัก
แต่ แต่
กว่าจะกลับมาได้นี่หลงนะคะ
จำได้ไหมว่าตอนแรกเราต้องเดินตามทางไปขึ้นรถ  S bahn 
ทีนี่ พอมาถึง ดันมีหลายทางออก
นี่ก็คิดว่าออกไปเถอะ ก็คิดว่าอ่านแล้วนะว่าออกตรงนี้จะเจอ
ที่ไหนได้ ออกมาแล้วแบบ ตาย ๆ ๆ อยู่ที่ไหนของแผนที่เนี่ย
กว่าจะเจอคนใจดีที่กล้าสบตา แล้วพาเรามาส่งถึงสถานีได้นี่ก็สักพัก
แต่คือ แค่นิดเดียวเองนะจากที่เราหลง เราแค่อยู่ในซอยเล็ก ๆ 
พอเค้าพาออกมาถนนใหญ่ถูก สถานีก็อยู่ตรงหน้า 
แล้วคนที่พามา ก็ไม่ใช่ท้องถิ่นนะ ไม่อยากจะบอก 5555
เค้าบอกว่า ดีนะว่าถามว่าสถานีนี่อยู่ไหน ถ้าถามที่อื่น เค้าก็คงไม่รู้เหมือนกัน 55+



ป่ะ เข้าไปข้างในดีกว่า



หาอะไรกินดีกว่า







ซื้ออะไรกลับไปกินดีกว่า

รถไฟมาแล้ว ได้เวลาเดินทางต่อ





พอถึงแฟรงค์เฟิร์ตก็เดินออกประตูข้าง ข้ามถนนไปโรงแรม hotel excelsior
http://www.hotelexcelsior-frankfurt.de/cms/index.php/en/


เช็คอิน แล้วนอนเลยไม่ได้ถ่ายรูปอะไรแล้ว ร่างแหลกมากค่า
นอนก่อนหล่ะวันนี้ เจอกันวันพรุ่งนี้ค่า



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น