วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559

Europe Trip Day 5 : Frankfurt tour

พฤหัสที่ 10 กันยายน 2559
วันที่ 5 ของการอยู่เยอรมัน

การที่เราเดินทางไปต่างเมืองมาตลอด  4 วัน ทำให้คิดว่าวันนี้จะเที่ยวแบบพักผ่อนนิดหน่อย โดยการเดินเล่นในแฟรงเฟิร์ตกัน

แผนนี้คือ เดินจากโรงแรม เดินข้ามสะพาน วนไปอีกฝั่งของแม่น้ำ ดูพิพิธภัณฑ์ แล้วข้ามสะพานแม่น้ำกลับอีกฝั่งโรงแรม
แล้วก็เดินกลับโรงแรม

เหมือนเดิม ไปขอแผนที่ใหม่จากโรงแรม แล้วก็ให้เค้าลองลากเส้นเดินทางให้อีกรอบ ^^
ถ้าไหว ตอนบ่ายก็ไปสวนของร.5 ที่เมืองบาดฮัมบวกกัน


เริ่มกันที่อาหารเช้าวันนี้กันดีกว่า












อลังการณ์ตลอด อาหารเช้าโรงแรมนี้ ^^ 

อิ่มแล้ว เข้าห้องน้ำ เตรียมตัวไปเที่ยวได้
ก่อนอื่น ข้ามถนนมาแวะส่งไปรษณีย์ที่สถานีรถไฟ
ก่อนจะข้ามกลับไปหาป๊าที่รออยู่ที่โรงแรม


ถ้าไม่ได้ซื้อตั๋วรถไฟมา ก็มากดเอาที่ตู่หน้าจอแบบนี้ได้เลย


เดินย้อนมาด้านหลังโรงแรม จะเป็นทางเดินไปยังแม่น้ำไมน์ ที่เรามาเดินเล่นรอบหนึ่งแล้วเมื่อวานตอนเช้า แต่วันนี้เราจะเดินข้ามสะพานมาอีกฝั่งหนึ่ง





วิว 2 ฝั่งแม่น้ำ


เดี๋ยวเราจะเดินไปจนถึงสะพานโน้นนน
ถ้าไหวจะเดินเข้าปราสาทสูง ๆ โน้น


ข้ามมาแล้ว เหนื่อยดี 55+






ถนนเส้นนี้ เป็นถนนแห่งพิพิธภัณฑ์ก็ว่าได้ เพราะมีพิพิธภัณฑ์ด้านศิลปะหลานแขนงทอดตัวอยู่

แต่....สงสัยมาเช้าไป ส่วนใหญ่ยังไม่เปิด ก็เลยได้แต่ถ่ายรูปกับประตู แล้วก็รูปปั้นด้านหน้า


แล้วคุณพ่อ..ก็ชอบการถ่ายกับรูปปั้นมาก ^^


ถ้าเดินตามถนนไปเรื่อย ๆ จะเจอพิพิธภัณฑ์เยอะเลย ทั้งศิลปะ การสื่อสาร ภาพยนต์ ภาพวาด
แต่เราไม่ได้เข้าทั้งหมดหรอก กะมาเดินเรื่อย ๆ เฉยๆ  เพราะคุณพ่อไม่โปรด 55+
และที่สำคัญ โดยที่เราไม่คิดว่าจะเข้าไปดูในส่วนที่ต้องเสียเงิน ก็เลยไม่ได้ซื้อพวก museum pass ทำให้ในการ "ถ้า" จะเข้าดูแต่ละที่ มันจะเสียเงินค่าเข้าเยอะเหมือนกัน
เพราะฉะนั้น ก็เข้าชมในส่วนที่เปิดให้ดูฟรี และถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ดีกว่า





ถนนเส้นที่เราเดิน จะเป็นลักษณะเป็นถนนเลียบแม่น้ำอยู่ด้านล่าง และถนนที่ให้รถวิ่งโดยมีฟุตบาทอยู่ 2 ด้านซ้ายขวาอยู่ด้านบน
เราเดินสลับกันด้านบนล่าง แล้วแต่วิวตรงไหนสวย

นี่ยังไม่ใช่สะพานที่เราจะข้ามไปน้า


เดินลงมาถ่ายวิวสะพาน
แล้วก็เดินขึ้นไปดูวิวพิพิธภัณฑ์ต่อ


เอาหมายเลขอะไรไม่รู้ติดต้นไม้



พิพิธภัณฑ์การสื่อสาร




เจ๋งเนอะ


ชอบอ่าสวย



พิพิธภัณฑ์ภาพยนตร์



 นี่คือมอเตอร์ไซด์ที่ใช้กันปกติเลย เจ๋งเนอะ



สะพานนี่เอง ที่เราจะข้ามไป
เห็นไหม ด้านขวามือ 
แค่นี้เค้าก็ยังมีลิฟต์ให้คนพิการนะ


 ข้ามถนนไปข้ามสะพาน



ถ้าดูจากตรงนี้คือ เราเดินจากโรงแรม สมมุติว่า อยู่ประมาณ 73 ซ้ายบน
ข้ามสะพานแถว 21
เจอพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ 60
เดินมาจนถึง จุดสีแดง แล้วก็กำลังจะข้ามสะพานไปบริเวณสีดำของอีกฝั่ง


ข้ามมาแล้ว ถ่ายรูปกับตึกอีกหน่อย

 

ฝั่งโน้น รอแป๊บ เดี๋ยวพี่ไปหา




แม้จะเป็นลิฟต์เล็ก ๆ ก็มีคนมาทำความสะอาดน้า รอพี่เค้าแป๊บหนึ่งค่า


อยู่บนสะพานแล้ว


วิวนี้คุ้นเชียว กลับไปคล้องสะพานนวรัฐบ้างจะมีคนจับไหม 55+

และแล้ว เราก็ได้มายืนอยู่กลางสะพานเก่าแก่ที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำไมน์



ในรูป เหมือนจะพิมพ์ผิด อ่านผ่าน ๆ ไปน้า เพราะจำไม่ได้แล้วว่าจะเขียนว่าอะไร 55+


พ่อลงลิฟต์มาแล้วค่า 
แต่ลูกเดินลงบันไดน้า อยากสัมผัสวิวบันไดบ้าง


ที่นี่ได้เจอคนไทยด้วย พี่เค้าเดินเข้ามาทัก เพราะเห็นแท็กธงชาติไทยที่เราเกี่ยวไว้ที่กระเป๋า ^_^

ยืนถ่ายกับประตูของอาคารเก่าแก่ริมแม่น้ำไมน์


ถึงแล้ว จตุรัสกลางเมืองเก่า Römer
มีการแสดงนิทรรศการอะไรสักอย่าง รูปปั้นตัวเล็กเต็มลานเลย

ศาลาว่าการประจำเมือง




หิวแล้ว แวะหาอะไรกินหน่อยดีกว่า
จะหาเรื่องเข้าห้องน้ำด้วย


ในเมนูน่ากินมาก แต่...
พอออกมา



ถือว่ามาเที่ยว ขี้เกียจเดินไปที่ร้านแล้วไปทวงผลไม้ เลยกิน ๆ ไป


พอหมดแล้วก็เดินเที่ยวต่อ
เดินไปเรื่อย ๆ แบบไร้จุดหมายมาก ป๊าเห็นอะไรอยากเดินไปไหน ถ่ายรูปกับอะไรก็เดินไป
กะว่าถ้าหลงค่อยถามทีเดียวตอนจะกลับโรงแรม 5555+







เดินมาเรื่อย ๆ เกือบถึงห้าม Zeil แต่เราไม่ได้เข้าไป เพราะเห็นเข้ามีคล้าย ๆ ตลาดนัด เลยมานั่งกิน
คือพ่อกะไม่กินอย่างอื่นเลยนอกจากไส้กรอกกะหรี่ 5555+


มีเอาวัวมาแสดงเหมือนงานที่บ้านเราเลย


ที่นี่ไม่มีถุงพลาสติกให้นะ ซื้อมาไง ยกไปงั้นแหระ



อะไรไม่รู้ แต่เห็นข้าง ๆ โต๊ะสั่งมา เลยไปหามากินบ้าง


แต่เราเอาอันเดียวก่อน ปรากฎอร่อยอ่าได้ไปซื้อมากินกับป๊าเพิ่ม55+


หน้าตาเป็นแบบนี้


มีเวลาว่าง ป๊าเลยคิดว่าอยากจะไปศาลาไทย ที่พระปิยมหาราชได้มาทรงสร้างไว้ที่บาดฮัมบวก
จากที่นี่ ซื้อตั๋วรถไฟกันก่อนเลยค่า
อ่อเนื่องจากเราไม่รู้ว่า การซื้อตั๋วรถไฟที่นี่แบ่งตามเขต
และถึงรู้ ก็ไม่รู้ว่า Bad Homburg เนี่ยอยู่เขตไหนของเยอรมัน 
เราเลยไปต่อแถวซื้อตั๋ว แล้วพนักงานก็ให้มากดตั๋วที่เครื่อง โดยมีพนักงานอีกคนบอกให้กด
ตั๋ววันแบบกลุ่มออกมา ซึ่ง มันผิดค่า
ขากลับโดนตรวจ เกือบโดนปรับ
เจ้าหน้าที่ถามว่า ทำไมซื้อตั๋วนี้มา นี่ก็บอกก็พนักงานกกดให้ ฉันจะรู้ไหม
นางก็ถามว่ามาครั้งแรกเหรอ ดูพาสปอร์ตหน่อย 
เอาไปดูก็มาครั้งแรกจริง ๆ แต่อยู่หลายวันแล้ว ก็บอกไปว่าพึ่งได้นั่งรถไฟในแฟรงเฟิร์ตวันแรกด้วย
เจ้าหน้าที่ 3 คนก็จ้องหน้า จ้องตา มองเรา มองป๊า แล้วก็บอก งั้นยกให้ คราวหน้าดูให้ดี ๆ นะ 
ไม่งั้นถูกปรับ
โห้ยยย ตอนแรกนี่คำนวณเงินเลย เอามากี่ยูโรหว่า จะพอจ่ายค่าปรับไหม 5555+
คราวหน้าดูเองด้วย แล้วต้องตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่อีกหลาย ๆ คน หลาย ๆ รอบ
ปะไปเที่ยวกันได้

เราต้องไป S5 ตามป้ายสีเขียวไป ตรงกลางไง 


 เดินไปดูที่ป้าย ว่าจะมากี่โมง เห็นหรือยัง S5 ฺ13.35 ถึง Bad Homburg 14.03
ชานชลา 1-7 รออันไหนก็ได้ (หรือป่าวจำไม่ได้แล้ว)

 มารอที่ชานชลา 3 ก็แล้วกัน ดูดี ๆ นะ ที่นี่ ชานชลาเดียว แต่สายไหน ๆ มาผ่าน จ้องไว้
ถ้าไม่ใช่ S5 อย่าขึ้น รอไปก่อน


รถมาแล้ว ขึ้นได้ ในรถไฟจะมีป้ายบอกอีกทีกันคนขึ้นผิด


เก้าอี้ในรถไฟ

ถึงแล้ว สิ่งแรกคือ มองหาห้องน้ำ


ข้างห้องน้ำเป็นห้องเก็บจักรยาน


ออกทางไหนดีเอ่ย
เลือกออกทาง City เพราะไม่รู้อีกอันจะพาไปไหน อ่านไม่ออก 55+



อือ..ย้อนแสงอ่าป๊า


หน้าดำอ่ะป๊า เดี๋ยวค่อยออกมาถ่ายใหม่ไหม


 เดินตรงมาเรื่อย ๆ จะเจอสะพาน ข้ามสะพานโลด แต่คุณพ่อก็ต้องลิฟต์นะคะ


ตี๋ใหญ่หรือเปล่านี่ย 55+


ถ่ายรูปสักหน่อยบนสะพาน 
สะพานจะเดินโค้ง ๆ หน่อยนะคะ
ทางลงจะอยู่หลังขึ้นกลม ๆ ขวามือ ลงเสร็จก็ตรงลูกเดียวเลย


ทางที่นี่ทำดีมาก เผื่อให้รถจักรยานและรถเข็นได้หมดเลย

 จากนั้นก็เดินไปเรื่อย ๆ
จนเจอร้านนี้ตรงแยก ไม่ต้องเลี้ยว เดินตรงต่อไปเรื่อย ๆ ๆ จนเจอสวน แต่ถ้าใครไม่แน่ใจ อยากลองถามแถวนั้นก็ถามได้ว่า Kurpark ไปทางไหน





เจอจนได้ Kurpark ต่อไป หาศาลาค่ะ


ศาลาจะมี 2 ที่นะคะ
อ่อ มีก๊อปไว้จากในพันทิพ แต่จำที่มาไม่ได้ ขอโทษด้วยนะคะคุณเจ้าของ
อนุญาตเอามาแปะอีกรอบนะคะ

เพื่ออธิบายความเรื่องศาลาไทย บาด ฮอมบวร์ก เมืองศาลา พระปิยมหาราช ที่มาของศาลาไทยแห่งนี้เนื่องมาจากว่า ในการเสด็จฯประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๐ รัชกาลที่ ๕ เสด็จฯมาประทับรักษาพระองค์ที่เมืองนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือน และเพื่อถวายพระเกียรติ ทางเมืองได้ขุดเจอบ่อน้ำแห่งใหม่และตั้งชื่อว่าเป็น “บ่อน้ำจุฬาลงกรณ์” โดยพระองค์ได้เสด็จฯมาทรงเป็นประธานในพิธีเปิดด้วย รัชกาลที่ ๕ จึงมีพระราชดำริสร้างศาลาครอบบ่อน้ำมอบให้เป็นที่ระลึกแก่เมือง ดังเช่นกษัตริย์และราชนิกูลชาติอื่นๆ ก็ได้จัดสร้างขึ้นเช่นเดียวกัน แต่การออกแบบก่อสร้างจนกว่าจะให้เป็นที่พอพระราชหฤทัยก็เป็นไปอย่างล่าช้า จนกระทั่งสวรรคตแล้วก็ยังไม่แล้วเสร็จ แต่เมื่อศาลาเดินทางมาถึงยังเยอรมนี ไคเซอร์ วิลเฮล์มสที่ ๒ ได้มีดำริให้นำศาลาไทยนี้มาตั้งไว้ในบริเวณที่ใกล้กับบ่อน้ำของพระองค์ เพื่อให้เป็นที่เห็นเด่นชัดมากกว่าบริเวณบ่อน้ำจุฬาลงกรณ์ ซึ่งออกจะเป็นรกชัฎ (อยู่ในบริเวณของถนน Brunnenallee ห่างจากที่ตั้งศาลาประมาณ ๕๐๐ เมตร) ศาลาไทยหลังแรกจึงตั้งโดดเด่นเป็นสง่าอยู่ทางตะวันตกของสวน ตามคำบอกเล่าของผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ของเมือง คุณอัวซูล่า สตีห์เลอร์ “ฉันจำได้ว่าตอนเด็กๆ เดินไปเที่ยวที่คัวร์พาร์ค แล้วเห็นศาลาไทยส่งประกายสีทองระยิบระยับแต่ไกล ซึ่งเป็นภาพที่สวยมาก ประทับใจไม่รู้ลืม” หากมาเยือนเมืองบาด ฮอมบวร์กในฤดูหนาว จะได้เห็นภาพสถาปัตยกรรมไทย ส่งประกายงดงามท่ามกลางหิมะขาว สวยงามแปลกตาแบบที่ไม่เคยเห็นกันมาก่อนทีเดียวค่ะ นอกจากนั้น ศาลาไทยแห่งนี้ยังเป็นเหมือนกับศูนย์รวมจิตใจของคนไทย และมีพระบรมรูปปั้นนูนต่ำของรัชกาลที่ ๕ ประดิษฐานไว้ด้วย ทุกวันที่ ๒๓ ตุลาคมของทุกปี หน่วยงานราชการและเอกชนไทยต่างๆ จะมาถวายสักการะที่นี่ ศาลาไทยตั้งเด่นเป็นสง่า เป็นความภาคภูมิใจของชาวไทยและชาวบาด ฮอมบวร์ก มาเกือบครบศตวรรษ แต่พระราชประสงค์ของรัชกาลที่ ๕ ที่จะให้มีศาลาไทยตั้งครอบบ่อน้ำของพระองค์กลับยังไม่เป็นความจริง ดังนั้น ในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปี การเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ ของรัชกาลที่ ๕ หน่วยงานภาครัฐของไทยและเมืองบาด ฮอมบวร์ก จึงได้ร่วมกันสร้างศาลาไทยหลังใหม่ ตั้งไว้ ณ บ่อน้ำจุฬาลงกรณ์ มีพิธีเปิดไปเมื่อวันที่ ๒๐ ก.ย. ๒๕๕๐ และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมบาด ฮอมบวร์กจึงมีศาลาไทยถึง ๒ หลัง เมืองเดียวในโลก (ยกเว้นประเทศไทย) ด้วยความผูกพันกับคนไทยนี้เอง ทำให้บาด ฮอมบวร์ก กลายเป็นสถานที่จัดงานวัฒนธรรมไทยเป็นประจำทุกปี ถือเป็นงานไทยที่ใหญ่ที่สุดในเยอรมนี มีคนไทยและฝรั่งมาออกร้านขายอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้านานาชนิดกันอย่างครึกครื้น ชนิดที่ว่าคิดถึงอาหารไทยอีสานประเภทไหนเป็นต้องหารับประทานได้ ครอบครัวคนไทยจากทุกสารทิศ ต่างก็นัดมาเจอกันในงานนี้ บ้างก็หอบลูกจูงหลานมาด้วย บ้างก็หอบครก มะละกอ มาทำส้มตำในสวน สนุกสนานม่วนซื่น หากมาเดินเที่ยวงานแล้วละก็ จะต้องตกใจกับปริมาณคนไทยในเยอรมนีเลยล่ะค่ะ การแสดงบนเวที ก็มีทั้งแสดงวัฒนธรรมไทยรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจำเป็นนาฎศิลป์ไทย หรือมวยไทย ไฮไลท์คงนี้ไม่พ้นตอนเย็นของงานที่เมื่อเพลงลูกทุ่งหมอลำดังกระหึ่มเมื่อไหร่ ขาแดนซ์ทั้งหลาย (ไม่เกี่ยงวัย) จะ ยักย้ายส่ายสะโพกกันเต็มหน้าเวที หากได้แวะผ่านมาที่แฟรงก์เฟิร์ตแล้ว บาด ฮอมบวร์กเป็นสถานที่เที่ยวที่คนไทยไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

-จบข้อความจากในพันทิพค่ะ-


แต่ไม่ใช่ว่าถึงสวนแล้วจะเจอศาลาไทยอีกนะ สวนใหญ่มาก


แต๊แน้...เจอที่แรกแล้วค่า ดีใจมากค่า คือสวนใหญ่มาก เดินหาเหนื่อยเลยค่า 55+










สำหรับคนไทยอย่างเราก็ไม่มีอะไรมาก
แค่ได้มาพำนักอยู่ใต้ร่มพระบารมี แม้เพียงชั่วคราว ก็อิ่มใจเป็นหนักหนาแล้ว




หลังจากชื่นชมศาลาหลังแรกไปพอสมควร ก็เดินหาศาลาอีกหลังค่า
นี้สวยดี



เจอแล้วค่า เย้ ๆ ศาลาหลังนี้ หายากหน่อยค่า หรือเราเข้าทางผิด T_T 
ต้องเดินคดเคี้ยวอยู่นานกว่าจะเจอ






















เตรียมตัวเดินทางกลับแล้ว


ระหว่างที่เราอยู่ที่ทั้งศาลาที่ 1 และ 2 นั้น จะมีคนมาเยี่ยมชมอยู่ตลอดไม่ขาดสาย ทั้งต่างชาติ หรือไม่ก็เป็นลูกครึ่งเอเซีย บางทียังมีเหมือนคนไทยไปเหมือนกัน บางคนก็เข็นรถเข็นพาคนแก่มาดูศาลา คิดว่าคงมีความหลังฝังใจบางอย่าง คนแก่คนนั้นซึม ๆ นั่งมองศาลาไทยแล้วก็ยิ้มน้อย ๆ คนพามาก็มองคนแก่ด้วยความรัก ให้คนแก่คนนั้นได้อยู่กับศาลาไทยสักพัก แล้วก็คงคุยว่าจะไปแล้วนะ คุยอยู่นาน จนคนแก่พยักหน้าถึงได้เข็นไป แต่คนแก่ก็ยังมองศาลาไทยอยู่ไม่วางตาจนรถเข็นค่อย ๆ เข็นไกลออกไป ๆ




บริเวณรอบ ๆ สวน







เดินกลับออกมาแล้วนะคะ



เดินอย่างเดียวค่ะวันนี้ 555+

มีขายแบบนี้ด้วยนะเออ ถ้าที่ไทยนี่จะหายไปแล้วหรือเปล่า 55+
 

และแล้วคุณพ่อก็ได้ถ่ายแบบไม่ย้อนแสง 55+




 เข้ามาในสถานีแล้วค่า









อือ..ไปไหนต่อดี ฟ้ายังไม่มืด ป๊าบอก ไปขึ้นตึกก็แล้วกัน เอ้า..ไป
ออกสถานี Taunusanlage  ออกแล้วก็ถามทางต่อค่า 55+



สักพักก็เจอ ตึกสูงขนาดนี้ แค่ชี้ตึก เค้าก็บอกทางให้แล้วค่า แต่ก็สักพักนะกว่าจะเจอคนรู้ เหมือนมีแต่คนมาเที่ยวแล้วไม่รู้จักทางกันเลย


กว่าจะหาทางเข้าได้ T_T หลายประตูไปไหน แต่ละประตูก็ไม่เชื่อมกัน ได้เจอสักที



รายละเอียด


ซื้อตั๋วค่า


มีคนพาไปขึ้นลิฟต์ไปชั้นบน 


พอลิฟต์เปิด จะเป็นห้องมีเก้าอี้ ก่อนแล้วค่อยเดินขึ้นบันไดต่อไปดาดฟ้า
ตอนแรกไม่รู้ว่ามีไว้พักทำไม ตอนขากลับรู้แล้วให้พักเพราะขาสั่น 55+
  



ไมกล้ากันจัง T________________________T



กลับค่ากลับ กลัวลมพัดตกตึก 555+



ขาลง ดูแลตัวเองค่ะ กดเองค่ะ



เจอเพื่อน 555+ ระหว่างเดินทางกลับสถานีที่มาเมื่อกี้


กลับมาตลาดที่เดิม เริ่มมืดแล้วอ่า
เปล่า...ถ่ายย้อนแสงต่างหาก 55+ 



แวะมาตลาดนัดเมื่อเช้าอีกสักรอบ
จากที่ได้ดูวิวเมืองจากบนตึก ทำให้รู้ว่า ตลาดนัดเมื่อเช้า อยู่ใกล้กับห้าง แล้วก็เดินกลับโรงแรมได้ 
แล้วก็วาดแผนที่ที่เดินกันเมื่อเช้าให้คุณพ่อดูก็โห้..เราเดินเยอะนะเนี่ย 





ป่ะ เดินไปห้างกัน
พี่เค้าขายไส้กรอก


เจอห้างแล้ว



 เจอตอนกำลังเตรียมเล่นดนตรี คือหล่อมากอ่า รอคุณเงยหน้านานมาก หมดความพยายาม
ไปดีกว่า เดี๋ยวป๊าด่า 55+


ภายในห้าง ก็หาแต่ของกินนะเรา 55+




ชอบอ่า ร้านที่นี่ คือสด ไม่ผสมอะไรเลย ชอบ ๆ










กลับแล้วนะคะ ขึ้นจากสถานีนี้ค่ะ


 ชอบอ่าเบอร์เกอร์เจ


มาลงสถานีนี้ค่า


อยากกินอ่า


จบการเดินทางสำหรับวันนี้ค่า 
ฝันดีค่า











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น